( 25 เม.ย.) ณ พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประธานในพิธีวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมด้วยนางเยาวรัตน์ โพธิสัตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้าและประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมฯ โดยในพิธีผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประกอบพิธีบวงสรวง และพระสงฆ์พระเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นประธานในพิธีกล่าวถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน ผู้ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ ในอดีตพระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพของไทย และทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติจนทำให้มีประเทศไทยอย่างเช่นทุกวันนี้
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ ทรงพระราชสมภพ เมื่อ พ.ศ. 2098 ในขณะที่พระองค์ทรงพระเยาว์ พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก ทรงขอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปเลี้ยงเป็นพระราชบุตรบุญธรรม เพื่อเป็นตัวประกันที่หงสาวดี จนพระชนมายุได้ 15 พรรษา พระองค์จึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก ใน พ.ศ. 2126 ทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ณ เมืองแครง ประกาศอิสรภาพของชาติไทยโดยไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไป ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2133 ในรัชสมัยของพระองค์ทรงกระทำสงครามขยายพระราชอาณาจักรไทยให้แผ่ไพศาลไปในจตุรทิศ ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ และพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2148 ขณะพระชนมพรรษา 50 พรรษา คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้วันที่ 25 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์